ในยุคดิจิทัลปัจจุบันที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแพร่หลาย การมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องผู้ใช้จากการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตรายหรือไม่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ วิธีแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งคือการติดตั้ง Network Packet Broker (NPB) เพื่อตรวจสอบและควบคุมปริมาณการรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย
มาดูสถานการณ์ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจว่า NPB สามารถใช้ประโยชน์เพื่อจุดประสงค์นี้ได้อย่างไร:
1- ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์:ผู้ใช้พยายามเข้าถึงเว็บไซต์จากอุปกรณ์ของตน
2- แพ็กเก็ตที่ผ่านจะถูกจำลองโดยการแตะแบบพาสซีฟ:ในขณะที่คำขอของผู้ใช้เดินทางผ่านเครือข่าย Passive Tap จะจำลองแพ็คเก็ต ช่วยให้ NPB สามารถวิเคราะห์การรับส่งข้อมูลได้โดยไม่รบกวนการสื่อสารเดิม
3- Network Packet Broker ส่งต่อการรับส่งข้อมูลต่อไปนี้ไปยัง Policy Server:
- HTTP รับ:NPB ระบุคำขอ HTTP GET และส่งต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์นโยบายเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม
- ไคลเอนต์ HTTPS TLS สวัสดี:สำหรับการรับส่งข้อมูล HTTPS นั้น NPB จะจับแพ็กเก็ต TLS Client Hello และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์นโยบายเพื่อระบุเว็บไซต์ปลายทาง
4- เซิร์ฟเวอร์นโยบายตรวจสอบว่าเว็บไซต์ที่เข้าถึงอยู่ในบัญชีดำหรือไม่:เซิร์ฟเวอร์นโยบายซึ่งมีฐานข้อมูลเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายหรือไม่พึงประสงค์ที่ทราบ จะตรวจสอบว่าเว็บไซต์ที่ร้องขออยู่ในบัญชีดำหรือไม่
5- หากเว็บไซต์อยู่ในบัญชีดำ เซิร์ฟเวอร์นโยบายจะส่งแพ็กเก็ตรีเซ็ต TCP:
- ให้กับผู้ใช้งาน:เซิร์ฟเวอร์นโยบายจะส่งแพ็คเก็ตรีเซ็ต TCP พร้อมด้วย IP ต้นทางของเว็บไซต์และ IP ปลายทางของผู้ใช้ ทำให้การเชื่อมต่อของผู้ใช้กับเว็บไซต์ที่อยู่ในบัญชีดำสิ้นสุดลงโดยมีผล
- ไปที่เว็บไซต์:เซิร์ฟเวอร์นโยบายยังส่งแพ็คเก็ตรีเซ็ต TCP พร้อมด้วย IP ต้นทางของผู้ใช้และ IP ปลายทางของเว็บไซต์ โดยตัดการเชื่อมต่อจากปลายทางอีกด้านหนึ่ง
6- การเปลี่ยนเส้นทาง HTTP (หากการรับส่งข้อมูลเป็น HTTP):หากคำขอของผู้ใช้เกิดขึ้นผ่าน HTTP เซิร์ฟเวอร์นโยบายจะส่งการเปลี่ยนเส้นทาง HTTP ไปยังผู้ใช้ด้วย เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ทางเลือกที่ปลอดภัย
การนำโซลูชันนี้ไปใช้งานโดยใช้ Network Packet Broker และ Policy Server องค์กรต่างๆ สามารถตรวจสอบและควบคุมการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อยู่ในบัญชีดำของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องเครือข่ายและผู้ใช้จากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
โบรกเกอร์แพ็กเก็ตเครือข่าย (NPB)นำทราฟฟิกจากหลายแหล่งมาใช้ในการกรองเพิ่มเติม เพื่อช่วยปรับสมดุลภาระทราฟฟิก การแบ่งทราฟฟิก และความสามารถในการปิดบังข้อมูล NPB ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรวมทราฟฟิกเครือข่ายจากหลายแหล่ง เช่น เราเตอร์ สวิตช์ และไฟร์วอลล์ กระบวนการรวมนี้จะสร้างสตรีมข้อมูลเดียว ทำให้การวิเคราะห์และการตรวจสอบกิจกรรมเครือข่ายในภายหลังง่ายขึ้น อุปกรณ์เหล่านี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการกรองทราฟฟิกเครือข่ายเป้าหมาย ช่วยให้องค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ทั้งเพื่อการวิเคราะห์และความปลอดภัย
นอกจากความสามารถในการรวมและกรองข้อมูลแล้ว NPB ยังแสดงการกระจายทราฟฟิกเครือข่ายอย่างชาญฉลาดผ่านเครื่องมือตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องมือแต่ละชิ้นจะได้รับข้อมูลที่จำเป็นโดยไม่ทำให้ข้อมูลภายนอกเข้ามาท่วมท้น ความสามารถในการปรับตัวของ NPB ครอบคลุมถึงการปรับปรุงการไหลของทราฟฟิกเครือข่ายให้เหมาะสมที่สุด โดยสอดคล้องกับความสามารถและขีดความสามารถเฉพาะตัวของเครื่องมือตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย การเพิ่มประสิทธิภาพนี้ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพทั่วทั้งโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย
ข้อได้เปรียบหลักของ Network Packet Broker ในแนวทางนี้ ได้แก่:
- การมองเห็นที่ครอบคลุม:ความสามารถของ NPB ในการจำลองการรับส่งข้อมูลเครือข่ายช่วยให้สามารถดูการสื่อสารทั้งหมดได้ครบถ้วน รวมถึงการรับส่งข้อมูลทั้งแบบ HTTP และ HTTPS
- การควบคุมแบบละเอียด:ความสามารถของเซิร์ฟเวอร์นโยบายในการรักษาบัญชีดำและดำเนินการตามเป้าหมาย เช่น การส่งแพ็คเก็ตการรีเซ็ต TCP และการเปลี่ยนเส้นทาง HTTP จะทำให้สามารถควบคุมการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ใช้ได้อย่างละเอียด
- ความสามารถในการปรับขนาดการจัดการปริมาณการรับส่งข้อมูลเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพของ NPB ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโซลูชันความปลอดภัยนี้สามารถปรับขนาดเพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นและความซับซ้อนของเครือข่ายได้
ด้วยการใช้ประโยชน์จากพลังของ Network Packet Broker และ Policy Server องค์กรต่างๆ จะสามารถปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและปกป้องผู้ใช้จากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อยู่ในบัญชีดำ
เวลาโพสต์: 28 มิ.ย. 2567